การถนอมอาหารและการเก็บรักษาอาหารให้สดใหม่ยาวนานขึ้นเป็นสิ่งสำคัญสำหรับทั้งผู้ประกอบการธุรกิจอาหารและครัวเรือนทั่วไป “เครื่องซีลสูญญากาศ” กลายเป็นเครื่องมือที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน ด้วยประสิทธิภาพในการยืดอายุของวัตถุดิบ ลดการสูญเสียอาหาร และประหยัดพื้นที่จัดเก็บ บทความนี้จะช่วยคุณเลือก “เครื่องซีลสูญญากาศ” ที่เหมาะสมกับความต้องการ โดยพิจารณาจากปัจจัยสำคัญต่างๆ
“เครื่องซีลสูญญากาศ” คืออะไร?
“เครื่องซีลสูญญากาศ” (Vacuum Sealer) คือ อุปกรณ์ที่ใช้ดูดอากาศออกจากบรรจุภัณฑ์แล้วปิดผนึกถุงเพื่อเก็บรักษาอาหารหรือสินค้าต่างๆ ในสภาวะที่ปราศจากอากาศ กระบวนการนี้ช่วยลดการเกิดออกซิเดชันซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้อาหารเสื่อมสภาพเร็ว และยังป้องกันการเจริญเติบโตของเชื้อราและแบคทีเรีย
ข้อดีของการใช้ “เครื่องซีลสูญญากาศ”
- ยืดอายุการเก็บรักษาอาหาร
การเก็บรักษาอาหารในสภาวะสูญญากาศช่วยลดการเสื่อมสภาพ และทำให้อาหารสดใหม่ได้นานขึ้น เช่น ผักสดอาจเก็บได้นานถึง 2 สัปดาห์ในตู้เย็น หรือเนื้อสัตว์แช่แข็งเก็บได้นานเป็นเดือน
- ป้องกันการปนเปื้อน
การซีลสูญญากาศช่วยป้องกันฝุ่น เชื้อรา หรือแมลงที่อาจเข้ามาสัมผัสอาหาร
- ประหยัดพื้นที่จัดเก็บ
การบรรจุสูญญากาศทำให้อาหารถูกบีบอัดให้เล็กลง ช่วยลดพื้นที่ในการจัดเก็บในตู้เย็นหรือช่องแช่แข็ง
- ลดของเสียและช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย
เมื่ออาหารเก็บได้นานขึ้น โอกาสที่อาหารจะเสียหายก็ลดลง ทำให้คุณลดค่าใช้จ่ายจากการซื้อของซ้ำ
ประเภทของ “เครื่องซีลสูญญากาศ”
การเลือก “เครื่องซีลสูญญากาศ” ควรเริ่มจากการเข้าใจประเภทของเครื่องที่มีในตลาด ซึ่งสามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภทหลัก คือ
-
“เครื่องซีลสูญญากาศ” แบบภายนอก (External Vacuum Sealer)
- เหมาะสำหรับการใช้งานในครัวเรือนหรือธุรกิจขนาดเล็ก
- ใช้งานง่ายและมีราคาย่อมเยา
- เหมาะสำหรับบรรจุภัณฑ์ที่มีปริมาณไม่มาก เช่น ผัก ผลไม้ หรือขนมขบเคี้ยว
ข้อเสีย : ไม่สามารถใช้งานกับถุงที่มีของเหลวได้ดี
-
“เครื่องซีลสูญญากาศ” แบบห้อง (Chamber Vacuum Sealer)
- เหมาะสำหรับการใช้งานในธุรกิจอาหารขนาดใหญ่หรือโรงงาน
- สามารถใช้กับถุงที่มีของเหลว เช่น ซุป หรือซอส
- มีความแม่นยำและประสิทธิภาพสูงกว่า
ข้อเสีย : ราคาสูงและมีขนาดใหญ่
วิธีเลือก “เครื่องซีลสูญญากาศ” ที่เหมาะสม
- วัตถุประสงค์การใช้งาน
- หากคุณต้องการใช้ในบ้านเพื่อถนอมอาหารทั่วไป เครื่องแบบภายนอกก็เพียงพอ
- หากต้องการใช้ในธุรกิจที่ต้องซีลอาหารจำนวนมาก หรือซีลของเหลว ควรเลือกเครื่องแบบห้อง
- ขนาดและความจุ
- เลือกขนาดเครื่องที่เหมาะสมกับพื้นที่และปริมาณการใช้งาน
- “เครื่องซีลสูญญากาศ” สำหรับธุรกิจขนาดเล็กควรมีความจุที่เหมาะสมและใช้งานง่าย
- ประเภทของบรรจุภัณฑ์
- ตรวจสอบว่าถุงซีลที่ต้องการใช้งานเหมาะกับเครื่องหรือไม่
- ถุงซีลบางประเภทอาจต้องใช้กับเครื่องเฉพาะ
- ฟังก์ชันเพิ่มเติม
- “เครื่องซีลสูญญากาศ” บางรุ่นมีฟังก์ชันพิเศษ เช่น การซีลแบบอัตโนมัติ การซีลเฉพาะมุม หรือการซีลแบบเร่งด่วน
- ฟังก์ชันเหล่านี้ช่วยเพิ่มความสะดวกและลดเวลาการทำงาน
- ราคาและงบประมาณ
- กำหนดงบประมาณที่เหมาะสม และเลือกเครื่องที่มีคุณสมบัติคุ้มค่าในราคานั้น
- ไม่ควรเลือก “เครื่องซีลสูญญากาศ” ราคาถูกจนเกินไป หากต้องใช้งานหนัก เพราะอาจเสื่อมสภาพเร็ว
- การรับประกันและบริการหลังการขาย
- เลือก “เครื่องซีลสูญญากาศ” จากผู้ผลิตที่มีการรับประกัน และมีศูนย์บริการใกล้บ้าน
ข้อควรระวังในการใช้ “เครื่องซีลสูญญากาศ”
- หลีกเลี่ยงการซีลอาหารที่ร้อน
ควรรอให้อาหารเย็นก่อนซีล เพราะความร้อนอาจทำให้ถุงละลายหรือเสียหาย
- ตรวจสอบคุณภาพของถุงซีล
ใช้ถุงที่เหมาะสมและออกแบบมาสำหรับการซีลสูญญากาศโดยเฉพาะ
- การดูแลรักษา “เครื่องซีลสูญญากาศ”
ทำความสะอาด “เครื่องซีลสูญญากาศ” หลังการใช้งานทุกครั้ง เพื่อยืดอายุการใช้งาน
- ไม่ควรซีลอาหารที่มีความชื้นสูงเกินไป
หากต้องการซีลอาหารเปียก เช่น เนื้อหมัก ควรใช้ “เครื่องซีลสูญญากาศ” แบบห้องเพื่อป้องกันความเสียหายของเครื่อง
สรุปแล้ว การเลือก “เครื่องซีลสูญญากาศ” เป็นการลงทุนที่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บอาหาร ควรเลือก “เครื่องซีลสูญญากาศ” ที่เหมาะสมกับวัตถุประสงค์การใช้งาน ขนาด และงบประมาณที่ตั้งไว้ อย่าลืมคำนึงถึงคุณสมบัติของเครื่อง ฟังก์ชันพิเศษ และการบริการหลังการขาย การใช้งานอย่างถูกวิธีและการดูแลรักษาเครื่องอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยยืดอายุการใช้งานของ “เครื่องซีลสูญญากาศ” และทำให้คุณได้รับประโยชน์สูงสุดจากการลงทุนครั้งนี้
**เพราะการเก็บรักษาอาหารที่ดี เริ่มต้นจากการเลือกเครื่องซิลสูญญากาศที่ใช่**